โหมด Racing ในเกม

โหมด Racing ในเกม รวมเหล่าระบบ racing ในเกมต่างๆ ที่เล่นได้สนุกมันส์ไม่แพ้ เกม Racing แท้ๆ

โหมด Racing ในเกม พบกับเหล่า โหมดระบบ Racing สุดปั่นสุดมันส์ จากเหล่าเกม RPG ต่างๆ ที่บอกได้เลยว่า ได้ความมันส์และ ความสนุกสนาน ตื่นเต้นเร้าใจ ไม่แพ้เหล่าเกม Racing แท้ๆ เลยทีเดียว มาดูกันว่ามีเกมไหนบ้าง ที่จะมีโหมดนี้สนุกสุดๆ

โหมด Racing ในเกม วันนี้ทางเรา Torrify นั้นจะพาคุณไปพบกับเหล่าเกมต่างๆ หรือเกมแนวเนื้อเรื่องที่มี Side quest หรือ  ระบบเสริม อย่าง Racing เป็นระบบแข่งรถที่เป็นโหมดเนื้อเรื่องเสริม แต่เจ้ากรรมดันสนุกและมันส์ ไม่แพ้เหล่า เกมแข่งรถหรือเกมแนว Racing แท้เลยด้วยซ้ำ

เพราะเกมใหม่ๆ สมัยใหม่นี้ส่วนใหญ่จะใส่ระบบเสริม หรือ Side Story หรือพวก Side Quest ต่างๆ ที่เส้นเนื้อเรื่องนั้น ไม่มีผลกับเนื้อเรื่องหลัก เหมือนเป็นการ เพิ่มมิติและเพิ่มสีสันต่างๆให้กับตัวเกมและมีโหมดเสริมอีกหนึ่งโหมดที่ยอดนิยมเป็นอย่างมากก็คือโหมด Racing การแข่งขันประชันความเร็ว ที่มีโหมดและระบบ เล่นได้มันส์ไม่แพ้กับเกมแนว Racing แท้ไปดูกันว่ามีเกมอะไรบ้าง รวมเกมแนวยิงสไนเปอร์

โหมด Racing ในเกม Sleeping Dogs – Racing

ถึงแม้เกมนี้ จะเป็นแนวแอคชั่น OPENWORLD เน้นการเล่าเนื้อเรื่อง กับระบบต่อสู้ที่ดุเดือด แต่ที่เดือดไม่แพ้กัน นั่นก็คือ โหมด Racing ของเกมนี้ ที่เป็นโหมดผู้เล่นส่วนใหญ่ นั้นจะมองข้ามไป แต่บอกเลยว่า โหมดแข่งรถผิดกฏหมายโหมดนี้นั้น หากได้สัมผัสอาจติดใจจน ไม่อยากเลิก

สนามแข่งใน Sleeping Dogs มีตั้งแต่ถนน ทางด่วนเป็นเส้นตรงส่วนใหญ่ และสนามแข่ง ในซอยที่มี โค้งหักมุม เป็นจำนวนมาก ด้วยความ หลากหลายของการดีไซน์สนามแข่ง ทำให้โหมด Racing ของเกมดังกล่าว มีความสนุกสนาน น่าตื่นเต้น และมีความ ท้าทายใช้ได้ เลยทีเดียว

โหมด Racing ในเกม

Assassin’s Creed Origins – Chariot Racing

ใครจะคิดว่า เกมแนวลอบเร้นสังหาร กับการลอบฆ่า ในตำนานอย่างเกม Assassin’s Creed นั้น จะมีโหมดการแข่งขัน ความเร็ว ให้เหล่าผู้เล่นและแฟนๆ ได้สัมผัส กันและบอกเลยว่า โหมดนี้มีความมันส์ และความแปลกแหวกแนว ที่ไม่ควรมองข้าม

Chariot Racing คล้ายกับเกม Burnout ในยุคกรีกโบราณ ที่ผู้เล่นสามารถชนรถม้าของคู่แข่งให้ออกนอกจากสนามได้ และสามารถใช้พลัง Boost หรือ Draft เพื่อเพิ่มความเร็วรถม้าของคุณ แม้สนามแข่ ิงอาจจะไม่ค่อยหลากหลายเท่าไหร่ แต่ก็ถือว่าเป็น กิจกรรมแข่งขันเล็ก ๆ ที่เล่นแล้วสนุกสนาน ไม่รู้สึกเสียเวลาหรือน่าเบื่อ แต่อย่างใด เรียกว่า เป็นความครีเอท ของผู้สร้าง ให้เราสัมผัส กับการแข่งขันความเร็ว ของยุคโบราณ ได้อย่างดี

The Witcher 3: Wild Hunt – Horse Racing

อีกหนึ่งเกม ที่เป็นเกมในตำนาน หลายๆความหมาย กับเกม The Witcher และในภาคสามนี้ มีระบบ เกม Racing เปรียบเสมือนเป็นการแข่งขัน Rally ที่เปลี่ยนจากรถเป็นม้าแทน ในสนามแข่ง จะมีทางโค้งมากมาย ภูมิประเทศ ค่อนข้างหลากหลาย และ HUD ไม่มีการบอก เส้นทางที่ชัดเจน เกมเมอร์จึงจำเป็นต้องใช้สมาธิ อย่างมากกับการโฟกัส กับการมองถนนที่อยู่ตรงหน้า

นอกจากนี้ ทางทีมงานได้ใส่ ความสมจริงหรือความเรียล โดยการใส่ระบบอย่าง ม้าของผู้เล่นมีหลอดพลังงาน Stamina ที่หากกดวิ่งนานเกินไป จะทำให้ม้าเหนื่อยเกิน จนไม่สามารถวิ่งต่อได้ จนกว่าหลอด Stamina กลับมาฟื้นอีกครั้ง ฉะนั้นระหว่างการแข่งขัน ผู้เล่นต้องคอยจัดการ Stamina ให้ดีด้วย

โหมด Racing ในเกม

Yakuza: Like A Dragon – Dragon Kart

เกม RPG ยากูซ่า กับระบบ มินิเกม เนื้อเรื่องเสริม ที่ขึ้นชื่อด้วย ความปั่นประสาท และความกาวขั้นสุด อย่างเกม Yakuza กับ โหมดเนื้อเรื่องเสริม อย่าง Dragon Kart เหมือนระบบนี้ ล้อเลียนเกม Mario Kart ของทางฝั่ง Nintendo นั่นเอง

ระหว่างการแข่งขัน ผู้เล่นสามารถเก็บพลัง Power-Up เช่น การยิงจรวด การวางกับดัก และพลังอื่น ๆ ที่ทำการรบกวนผู้เล่น ฝ่ายตรงข้ามเป็นเวลาชั่วคราว นอกจากนี้ ก่อนเริ่มการแข่งขัน ผู้เล่นสามารถอัปเกรดรถ Kart ของตัวเอง เพื่อเพิ่มประสิทธิ ภาพยานพาหนะของเรา ด้วยองค์ประกอบดังกล่าว Dragon Kart จึงเป็นหนึ่งใน มินิเกมขนาดใหญ่ของ Yakuza: Like A Dragon และพิสูจน์ให้เห็นว่าทีมงานมีความสามารถมากพอที่จะสร้างเกมแข่งรถเกมหนึ่งได้

โหมด Racing ในเกม Cyberpunk 2077 – The Beast in Me

อีกหนึ่งเกมที่ ถูกกล่าวถึง และโดนสวดยับ มากที่สุด ในปี ในเรื่องของบัคในเกม ที่แบบโดนด่าเละเทะ แต่หลังจากมีการอัพเดตแพทช์ เข้ามาแก้ไขปัญหาตรงนี้ ก็ดีขึ้นเรื่อยๆ จนมี ระบบเสริมอย่าง The Beast in Me ภารกิจแข่งรถซีรีส์ ใน Cyberpunk 2077 ของ Claire Russell เป็นหนึ่งในภารกิจที่เล่นแล้วมีความน่าจดจำไม่แพ้เนื้อเรื่องหลัก

เพราะการแข่งขันรถยนต์ใน Cyberpunk 2077 เป็นสิ่งผิดกฎหมาย และ Night City ก็เป็นบ้านป่าเมืองเถื่อน ที่อาชญากรรมเกิดขึ้นบ่อยจนกลายเป็นเหตุการณ์ในชีวิตประจำวัน ฉะนั้นการแข่งรถในเกมนี้จึงไม่มีกฎ สามารถทำได้ทุกอย่าง ตั้งแต่ชนคู่แข่งจนออกจากสนาม หรือให้คู่หูใช้ปืนยิงรถคู่แข่งจนเสียหลัก แม้จะใช้ลูกเล่นตุกติกแค่ไหน สุดท้าย คนที่คว้าอันดับ 1 ก็คือผู้ชนะ

ถึงแม้ภารกิจแข่งรถ Cyberpunk 2077 จะมีให้เล่นน้อย และกิจกรรม Racing ไม่มีให้เล่นในโหมด Free-Roam แต่เนื่องจากภารกิจดังกล่าว มีการบังคับต้องตัดสินใจระหว่างการแข่งขัน รวมถึงนำเสนอเรื่องราวได้น่าสนใจ จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเกมเมอร์หลายคนจึงชื่นชอบภารกิจของ Claire Russell เป็นอย่างมาก ดูบอล

โหมด Racing ในเกม