รีวิวเกม Into The Haze ผลงานเกมจากผู้พัฒนาชาวไทย กับการเอาตัวรอดบนตึกสูง 40ชั้น จะเป็นแบบไหนมาดูกัน

รีวิวเกม Into The Haze เกมจากชาวไทย ที่จะให้ท่านเหล่าเกมเมอร์ เอาตัวรอดบนตึกสูงระฟ้า 40ชั้น จะลุ้นระทึกและตื่นเต้นขนาดไหน เรามาดูกัน

รีวิวเกม Into The Haze สวัสดีครับ กลับมาเจอกันอีกแล้วกับพวกเรา Torrify ที่จะพาคุณได้หาอ่านรีวิวเกมดีๆ ต่างๆมากมาย และครั้งนี้เราก็ไม่พลาดหยิบนำเกมดีๆ ที่คุณนั้นอาจกำลังตามหาพอดี กับเกม Into The Haze นั่นเองบอกได้เลยว่าเกมนี้มีผู้พัฒนาเป็นคนไทย แถมหลังๆมานี้เราเริ่มจะได้เห็นเกมดีๆ จากของฝั่งเรา ออกไปสู่สายตา ต่างแดนกันบ้างแล้ว

ไม่ว่าจะเป็นเกม Home sweet Home หรือเกม TimeLie เป็นต้น การันตีว่าคนไทยไม่แพ้ชาติใดในโลกนั่นเอง กลับมาฝั่งเกมนี้ กับแนวเกม Survival ที่คุณจะต้องเอาตัวรอด จากตึกสูง 40ชั้นนั่นเอง วันนี้เรามาดูระบบของตัวเกม Into The Haze กันว่าเป็นอย่างไรกันบ้างและน่าเล่นขนาดไหน

วันเวลาผันผ่าน เทคโนโลยีต่าง ๆ ล้วนพัฒนาขึ้น ดังนั้นเราจึงเห็นผลงานของแฟน ๆ ชาวไทย สร้างเกมที่น่าสนใจออกมามากขึ้นเรื่อย ๆ มีอีกเกมที่น่าสนใจมาแนะนำ และเพิ่งวางจำหน่ายมาได้สด ๆ ร้อน ๆ เมื่อสัปดาห์ก่อน วันนี้เรามาดูกันว่า Into the Haze เกมนี้มีความเจ๋งขนาดไหนกันบ้าง

การเล่นแบบแหวกกฏการเอาตัวรอด 

ตัวเกมนี้นั้น แหวกฉีกกฏแนวเกมเอาตัวรอด อื่นๆที่มีการเซตติ้งระบบทั่วไป แบบ Open world ที่เกมเมอร์หลายท่านนั้นรู้จักกันเป็นอย่างดี ที่เพื่อจะทำให้สามารถใส่สิ่งต่างๆลงไปในตัวเกมได้อย่างมากมาย แต่เกม Into The Haze นั้นต่างออกไป

คอนเซปเกมนั้น คือการเอาตัวรอดบนตึกสูง40ชั้น ที่เป็นสถานที่ปิดและจำกัดแต่ทรัพยากรเยอะแทน ซึ่งทำให้การเล่นแนวเอาชีวิตรอดนั้นดูลุ้นมากกว่าเดิม ที่ตัวผู้เล่นจะตึกแหง็กอยู่ ในตึกสูง40ชั้น ที่ต้องหาทางเอาตัวรอด ปลดล็อคชั้นต่างๆลงมาเรื่อยๆ บอกได้เลยว่า เป็นเกมที่ไอเดียแจ่มมาก

เนื้อเรื่องเกมจะออกแนว ให้เรารอความช่วยเหลือ ซึ่งบนชั้น 40ชั้นสูงที่สุดนั้น จะมีลานเฮลิคคอปเตอร์อยู่ เหมือนจะบอกว่าให้เรานั้น ต้องลงไปชั้นล่างสุดเพื่อรอความช่วยเหลือนั่นเอง โดยการเอาตัวรอดหา ข้าวของทรัพยากรต่างๆมาประทังชีวิตให้รอดนั่นเอง ตัวเกมยังเป็น Early Access อยู่อาจทำให้ เกมไม่ได้ ยากเย็นอย่างที่คิดเพราะ หากเกมเมอร์ท่านไหนเคยเล่น เกมแนว Survival มาแล้ว จะพอทราบอยู่แล้วว่าอุปกรณ์ หรือของต่างๆนั้นมีไว้ทำอะไรได้บ้าง

เรียกได้ว่างง่ายกว่าที่คิด ก็อย่างที่บอกว่า อาจเป็นตัวเกมที่ยังไม่สมบูรณ์ คงต้องรอดูว่า ตัวเกมเต็มหลังจากวางขายแล้ว จะเพิ่มลูกเล่นหรือ ระบบเงื่อนไขแบบไหนให้ ยากไปกว่านี้หรือไม่

รีวิวเกม Into The Haze ระบบเกมเพลย์กับการเอาตัวรอดในสถานที่จำกัด

กับตัวเกม survival ที่ถูกบีบสเกลให้เล็กลงมา และเพิ่มความกดดันในทรัพยากรลงไปแทนนั้น ด้วยความที่ยังเป็นเกม Early Access อยู่นั้นก็จะพบจุดตำหนิเล็กน้อย ในพื้นที่แคบ และไม่ต้องพูดถึงเรื่องบัค มีแน่นอน แถมบางฉากยังโหลดไม่ทันก็มีพบเจอบ้าง แต่ก็ถือเป็นเรื่องปกติสำหรับเกม Early access นั่นเอง

ระบบเกมที่ต้องเอาตัวรอดนั้น ทางเกมจะมี ขีดจำกัด ของ ความกระหาย (น้ำ) และความหิว (อาหาร) ความอุบอุ่นและ ความเหนื่อยล้า ที่เหมือนจริงหาก เหนื่อยล้ามากๆก็ต้องพักผ่อนให้เต็มที่ แต่ความยากก็คือ เกมทำมาให้ เรื่องของการกระหายและหิว เร็วเกินไป ทำให้การผ่านด่านแรกนั้น กว่าจะหาอุปกรณ์ครบ เดือบจะม้วยไปหลายรอบ แต่ถ้าหากเป็นผู้เล่น ที่ไม่ได้ชินกับ ระบบ Survival แล้วมีตายกันบ้างแน่นอน

แถมเรื่อง การกระหายต้องได้น้ำดื่มที่สะอาดด้วย หากดื่มน้ำสกปรกหรือมีสิ่งเจือปนนั้น อาจลดค่าความกระหายเพิ่มขึ้นไปอีก แถมเสี่ยงทำให้ร่างกายของเรานั้น ติด Debuff อีกตังหากอาจถึงขั้นทำให้ตายได้เลย ทีเดียวเชียวต้องระวังจุดนี้มากเหมือนกัน แถมช่วงเริ่มต้นต้องประทังความหิว ด้วยการเอาเครื่องดักหนู ล่าหนูมาปรุงเป็นอาหารไปก่อน แล้วค่อยๆมีโอกาสเจอพวกมั่นฝรั่งและ ขนมต่างๆตอนเราออกไปฟาร์มได้นั่นเอง

เรื่องระบบการนอนหลับ พักผ่อนนั้นระบบเกมให้ เรามีอิสระในการปรับเวลาได้ ว่าตื่นนอนตอนไหนแต่หาก ทรัพยากรหรือ ค่าความกระหายหรือหิว หมดเมื่อไหร่ตัวเรานั้นก็ตื่นขึ้น มาทันทีดังนัั้น ปัจจัยหลักของเกมนี้คือ การบริหารจัดการทรัพยากรให้ดี ไม่งั้นจะทำให้เล่นเกมนี้ลำบากแน่นอน

ใน 1ชั้นนั้น จะมีทรัพยากรให้เก็บเยอะพอสมควร และหากจะปลดล็อคลงไปชั้นต่อๆไปนั้น ต้องให้แน่ใจว่า มีทรัพยากรเพียงพอต่อการเอาชีวิตรอด ในชั้นต่อไปนั่นเอง เสมือนการเก็บเลเวล ลงดัน ของเกมพวก MMO หรือแนว RPG นั่นเอง แถมตั้งแต่ชั้น 39 ลงไปเราจะพบเจอแก๊ส มาร่วมแจมทำให้ความลำบากในการ เอาชีวิตรอดนั้น มากยิ่งขึ้นไปอีก แถมยิ่งลงชั้นลึกเราจะพบเจอ ศัตรูแนวซอมบี้อีกตังหาก ดังนั้นต้องเตรียมทรัพยากรและอุปกรณ์ให้พร้อม ก่อนจะปลดล็อคไปในชั้นต่อๆไป

โดยรวมแล้ว ความกดดันหรือความยาก ของเกมนั่นคือ ต้องรีบหาทรัพยากรในเวลาจำกัด และไม่แน่หากวางขายเกมตัวเต็มแล้ว ทางทีมผู้พัฒนาอาจจะปรับ เรื่องความกระหาย และ ความหิวให้ลดช้าลงมากกว่าเดิมก็เป็นได้

สรุปทิศทางของเกม ในอนาคต

ตัวเกมนั้นยังเป็น Early access อยู่ ทำให้เดาทางไม่ได้ ว่าทางทีมงานผู้พัฒนานั้น จะนำพาเกมไปในทิศทางไหน แต่คาดว่าจะมีการอัปเดตตามออกมาในอนาคต และตอนนี้ประสิทธิภาพตัวเกมก็ไม่ได้แย่จนเกินไปนัก ถ้าเทียบกับราคา 151 บาท ก็ถือว่าเล่นได้เพลิน ๆ คุ้มเกินราคา ที่เหลือก็รอลุ้นการพัฒนาของทีมงานว่าจะพาเกมไปถึงเวอร์ชั่น 1.0 ได้ดีแค่ไหน และเรียกผู้เล่นหน้าใหม่ได้อย่างไร

จบกันไปแล้วกับ การรีวิวเกม Into The Haze ฉบับตัวเกม Early Access นั้นบอกได้เลยว่า โดยรวมก็ถือว่าทำออกมาได้ดี อาจติดที่เรื่องเกจ ความกระหายและความหิว ที่ลดเร็วเกินไป จึงทำให้ช่วงแรกเล่นลำบากมาก แต่เรื่องแหวกแนวไอเดีย ในการทำเกมนั้น ต้องยกให้เกมนี้เช่นกัน เพราะเราต้องเล่นในสถานที่จำกัด ไม่ใช่ ระบบ Open world แบบเกมเอาตัวรอดเกมอื่นๆ

จึงอาจทำให้ คนที่เริ่มเล่นใหม่นั้น อาจต้องใช้เวลาศึกษาก่อน และต้องกดดันไปกับ เวลาและสถานที่ รวมไปถึงทรัพยากรต่างๆ ที่ต้องทำความเข้าใจด้วยถึงแม้ จะเล่นในตึกซึ่งพื้นที่แคบ แต่ก็มีทรัพยากรหลากหลาย ให้ใช้ก็ต้องขึ้นอยู่กับ เหล่าเกมเมอร์แล้วว่า จะบริหารจัดสรรทรัพยากร ในพื้นที่จำกัดได้ดีแค่ไหนนั่นเอง เพราะฉะนั้น เกมนี้ถึงแม้จะดูไม่มีอะไรมาก แต่บอกได้เลยว่า หากได้สัมผัสมันจะช่วยให้ เปิดโลกเกมแนว Survival ได้เป็นอย่างดี

มารอดูกันว่า ครั้งหน้าพวกเรา Torrify นั้นจะนำเรื่องอะไรมารีวิวอีก ต้องรอดูกันต่อไปครับ ส่วนเรื่องของตัวเกมนี้นั้น บอกได้ว่าคุ้มค่าคุ้มราคา อย่างแน่นอน ถึงแม้จะมีข้อจำกัดบ้าง ไม่ว่า่จะเป็นบัค หรือการแสดงผลของแมพ ที่ช้าบ้าง แต่ก็อย่างที่บอกว่า มันคือ Early access ซึ่งยังไม่ใช่ตัวเต็ม ก็ต้องรอวางขายกันแบบตัวเต็มอีกที และในราคาก็ถูกแสนถูก น่าหามาเล่นเพียงแค่ 151บาท จาก Steam เท่านั้น

ติดตามเว็บที่น่าสนใจอื่นๆ >>> เว็บดูบอลสดฟรี