รีวิวเกม Hitman3

รีวิวเกม Hitman3 กับภาคปิดตำนานนักฆ่า ที่ยังคงรักษามาตราฐานไว้ได้เป็นอย่างดี

รีวิวเกม Hitman3 มาดูเนื้อาและรายละเอียด ของเกมปิดภาคนักฆ่า เป็นภาคสุดท้ายของซีรีส์ไตรภาค

รีวิวเกม Hitman3 สวัสดีครับ ทุกท่านกลับมาพบกับเรา Torrify กันอีกแล้ว เว็บรีวิวเกมส์ และวันนี้ เราจะมาเสนอการรีวิวเกม ซีรีส์ปิดภาค ของนักฆ่ามือฉมัง อย่าง Hitman นั่นเอง กับภาคสุดท้าย ของซีรีส์นักฆ่าในตำนานไตรภาค ที่เรียกได้ว่า ขนออกมาแทบทันที หลังกระแส ภาค2ไม่ค่อยจะดีสักเท่าไร

อาจเพราะการปล่อยเนื้อเรื่องของแต่ละ Episode นั้นไม่ค่อยน่าสนใจเท่าไรนัก แถมเนื้อเรื่อง ความน่าติดตามยังสู้ของเก่าอย่าง hitman absolution แต่พอมาภาคสุดท้ายอย่าง ภาคสามก็ถูกแก้ไขให้ดีขึ้น เป็นไงลองมาดูกัน

รีวิวเกม Hitman3

รีวิวเกม Hitman3 Hitman 3 เล่นได้แบบเต็มเกม เล่นได้ยันจบไม่ต้องรอ DLC 

อาจจะเพราะ 2ภาคที่แล้วปล่อยด่าน ให้เล่นแบบ DLC  แต่พอถึงในภาคนี้ เล่นได้ยาวๆ เต็มเกมยันจนจบเกม เลยไม่ต้องรอ DLC  ที่มาเพิ่มเติมด่านใหม่ ให้เสียอารมณ์  และนั่นก็ส่งผลให้เกมนี้กลายเป็นเกมที่ทำยอดขายดิจิทัลได้มากที่สุดของซีรีส์เลยทีเดียว

เนื้อเรื่องที่มีความตื่นเต้นมากยิ่งขึ้น เข้มข้นน่าติดตาม

ในไตรภาคล่าสุด เนื้อเรื่องของภาค 1และ 2 ถูกลงความเห็นกันว่า เป็นเนื้อเรื่องที่น่าเบื่อมาก ไร้แรงดึงดูด เป็นอย่างมาก อาจเพราะการปล่อยทีละด่านมาในรูปแบบ DLC ที่ทำให้เหล่าเกมเมอร์ เล่นไม่สุด ไม่ต่อเนื่องต้องมานั่งรออัพเดท จนทำให้ความน่าสนใจลดลงไป

อีกทั้งตัวเนื้อเรื่องเองไม่ชวนให้น่าสนใจเท่าไหร่นัก เรียกได้ว่ามีภารกิจให้ฆ่าใครก็ไปฆ่า แต่รู้ไหมว่าคนนั้นเป็นใครก็ไม่แน่ใจเท่าไหร่ แต่ในภาค 3 นี้ ให้ความรู้สึกต่อเนื่องในแต่ละฉากมากขึ้น ซึ่งจุดนี้ดีกว่าภาค 1 และ 2 อย่างเห็นได้ชัด 10 มอนสวยงาม ใน Monster Hunter

รีวิวเกม Hitman3

ภายในภาคสาม จะใช้รหัสโค้ดหลากหลายรูปแบบ ที่แตกต่างกันออกไป

มีวิธีการแอบฟังเพื่อเอารหัสผ่านในจุดต่างๆอีกด้วย

รีวิวเกม Hitman3

ฉากเนื้อเรื่องที่สอดขึ้นมา ในระหว่างเล่นให้ได้อารมณ์อินไป กับเนื้อเรื่อง ของภาคนี้เพิ่มขึ้น มากกว่า การรับภาคกิจฆ่าแล้วก็จากไป แบบแนวเส้นตรง

เนื้อเรื่องสั้นแต่เล่นซ้ำได้ยาวๆ

ในภาคสามนี้ จะมีแค่ 6 ด่านเพียงเท่านั้น แถมในแต่ละด่านเรียกได้ว่าสั้น เลยทีเดียวแต่ข้อดีของภาคนี้ คือกลับมาเล่นซ้ำได้หลายครั้ง เพราะในแต่ละด่านนั้นมีให้เลือกหลากหลาย รูปแบบในการกำจัดเป้าหมาย

ซึ่งเหมาะกับเกมเมอร์ผู้ที่ชื่นชอบ ความท้าทายหรือ หาวิธีการเล่นแบบไม่จำเจนั่นเอง  อีกทั้งการออกแบบด่านก็ยังทำออกมาได้ดีเช่นเคย ทำให้การกลับไปเล่นด่านเดิมแต่ละรอบมีตัวเลือกที่แตกต่างออกไปได้เสมอๆ

รีวิวเกม Hitman3

ชาเล้นจ์ต่างๆในแต่ละด่าน ที่เตรียมไว้ให้เกมเมอร์ที่ชื่นชอบความท้าทายแบบ และชอบทำสถิติ

การออกแบบฉาก ที่สร้างทางเลือกมากมาย เพื่อการกลับมาท้าทายซ้ำอย่างต่อเนื่องได้นั่นเอง 

ในภาคสามนี้ ถือเป็นการออกภาค แก้ไขข้อเสียของภาคสอง และภาคแรก อย่างชัดเจน  และในสิ่งที่ยังเป็นจุดแข็งของตัวเกม 2 ภาคแรกก็ยังมีอยู่ เช่นการออกแบบด่านที่กว้างใหญ่ ทางลับต่างๆ มากมาย ทำให้มีตัวเลือกในการเล่นมากขึ้น ตรงจุดนี้ก็ยังทำได้ดีเช่นเคย แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังมีข้อเสียบางอย่างเช่นกัน ดังนี้

รีวิวเกม Hitman3 Game play ที่เหมือนเดิม ไม่ได้พัฒนาขึ้นมาเลย

ถึงแม้จะเป็นภาคสาม แต่ก็ดูเหมือนจะเป็น DLC ซะมากกว่า ถึงแม้จะแก้ไข จุดบกพร่องของภาคที่แล้วๆมาได้ แต่กับเรื่องเกมเพลย์นั้น แทบไม่แตกไม่ต่างจากภาคก่อนเลยก็ว่าได้ ไม่ได้ปรับเปลี่ยน หรือเพิ่มเติมอะไรขึ้นมาให้ ดูว้าวหรือดูแปลกใหม่เลย ซึ่งรวมข้อเสียของภาคก่อนๆ อย่างเรื่อง AI ที่ยังมีเอ๋อแบบไหนก็ แบบนั้น ถือเป็นจุดน่าผิดหวัง ในภาคสามนี้ เหมือนกันทั้งๆที่ส่วนอื่นๆ ห็ทำออกมาดี

A.I. เอ๋อขนาดไหน ขนาดที่เรากำจัดเป้าหมายด้วย เครื่องบดแบบดังลั่นยัง ไม่ได้ยินหรือ มีรีแอคชั่นอะไรเลย

รีวิวเกม Hitman3

A.I. ก็ยัง หลอกล่อให้กำจัด ได้อย่างง่ายเหมือนเดิม ไม่มีลูกเล่นอะไรเพิ่มเติมขึ้นมาเลย

รีวิวเกม Hitman3 บัคในเกมที่ยังมีให้เห็นอยู่ประปราย

บัค Visual ก็ยังมี ให้เห็นอยู่บ้านประปราย ไม่ว่าจะเป็นของใน ฉากไม่โหลด บ้างจนเห็นสิ่งต่างๆ ลอยขึ้นมา ในบางกรณีก็หนักกว่านั้น เช่นในภารกิจหนึ่งที่เราต้องหาว่าเป้าหมายที่เราต้องฆ่าคือใคร พอทราบเป้าหมายแล้วตัว นั้นจะกลายเป็นสีแดง แต่ในกรณีที่ ได้เจอมาก็คือตัวนั้น กลับไม่เปลี่ยนสีเวลากดดู แม้จะเป็นบัคเล็กๆ น้อยๆ แต่ก็ถือว่าชวนขัดใจได้บ้างเช่นกัน

รีวิวเกม Hitman3

ถึงแม้ใน Hitman3 นั้น ได้ทำการแก้ไข เหล่าข้อเสียของภาคก่อนๆ มาไม่ว่าจะเป็น การมีด่านที่ เพิ่มเติมความหลากหลาย และระบบต่างๆที่เพิ่มเข้ามามากมาย ให้รู้ถึงข้อดีของตัวเกม แต่ถ้าพูดโดยรวมๆแล้ว มันก็ออกที่จะธรรมดา ไปหน่อย ไม่ได้ทำให้เหล่าเกมเมอร์ ที่จับภาคแรกและภาคสองนั้น ต้องร้องว้าวกับ มาการมาของภาคนี้ อย่างที่บอกว่า เหมือนให้ความรู้สึกเป็น DLC มากกว่าที่จะมาเป็นภาค 3 ด้วยซ้ำ

แต่ถ้าหาก มองราคาที่  800 บาทนิดๆ ถือว่าคุ้มค่ากับเม็ดเงินที่เสียไป แต่อย่างว่า ภาคนี้ก็ไม่ใช่ภาคที่จะตอบโจทย์ แฟนๆ ที่ต้องการความว้าว หรือ มันไม่ได้มีอิมแพค ที่โดดเด่นชูออกมา ให้น่าเป็นกระแสสักเท่าไร แต่ก็ยังคงรักษามาตราฐานของตัวเกม ไว้ได้เป็นอย่างดี หากเกมเมอร์ที่ชื่นชอบ ความท้าทายในรูปแบบทำซ้ำๆ เป็นการท้าทายตัวเอง ก็เหมาะอยู่

รีวิวเกม Hitman3 สรุปข้อดีข้อเสีย Hitman 3

ข้อดี

– มาแบบเกมเต็มเล่นได้ยาวๆ ยันจบ ไม่มีต้องมาเสียอารมณ์รอ DLC ส่วนขยายด่าน ประหยัดเล่นได้ยาวยันจบ
– รักษามาตราฐานตัวเกมได้ดี และความหลากหลายของระบบแก้ ปริศนาและ เพิ่มปริศนาให้น่าสนใจมากยิ่งขึ้น
– การออกแบบฉากที่ยังทำได้ดีและสวยงามเช่นเคย
– ทางเลือกในการกลับมาเล่นซ้ำได้เรื่อยๆ โดยเฉพาะคนชอบทำ Challenge ต่างๆ
– เนื้อเรื่องที่มี ความตื่นเต้นมากยิ่งขึ้น เพื่อให้เรารู้สึกอินไปกับตัวละครและ บรรยากาศในด่านนั้นๆ เมื่อเทียบกับ 2 ภาคแรก
– ถือว่าคุ้มกับราคาเพียง 800 บาท

ข้อเสีย

– ในแง่เกมเพลย์โดยรวม ถือว่าไม่มีอะไรใหม่ที่โดดเด่นมากนัก เรียกได้ว่าแทบไม่ต่าง ไม่ได้ทำให้รู้สึกว้าวขึ้นมาแต่อย่างใด
– ตัวเกมสั้นมาก หากไม่ชอบการ ท้าทาย หรือทำสถิติ ก็ถือว่าไม่คุ้มอย่างแรง
– AI ยังแย่เหมือนเดิม โดยเฉพาะเวลาสู้ ที่ชอบวิ่งมาให้โดนฆ่าเรื่อยๆ

ก็จบกันไปแล้วนะครับ สำหรับเกม Hitman3  เกมภาคสุดท้าย ของซีรีส์ตำนานนักฆ่า ไตรภาคที่บอกได้เลยว่า ถึงแม้จะดูเหมือน DLC ซะมากกว่า แต่ถือว่าทำการบ้านมาดี แก้ไขระบบจุดบกพร่อง จากภาคก่อนๆ มาได้อย่างดี และการเพิ่มปริศนาต่างๆ ในหลายๆรูปแบบ และทั้ง เสริมเนื้อเรื่อง ในแต่ละด่านนั้น เพื่อให้เหล่าผู้เล่นนั้น เหมือนมีส่วนร่วมหรืออินไปกับ ตัวเกมนั่นเอง

เพราะแบบนั้น เองเลยทำให้ ภาคนี้ถือเป็นภาคที่ น่าสนใจนั่นเอง หากอยากลองสัมผัส เกมนักฆ่าที่พัฒนาจากสองภาคก่อน ในราคา800บาท ก็สามารถหามาลองเล่นได้ กับตัวเกมภาคปิด ของตำนานนักฆ่านั่นเอง และสำหรับครั้งนี้ Torrify ก็ขอตัวลาไปก่อน พบกันครั้งหน้า ว่าจะนำบทความไหน มารีวิวให้เหล่าผู้อ่านที่น่ารัก ได้อ่านกัน รอติดตามได้เลยครับ

ติดตามเว็บที่น่าสนใจอื่นๆได้ที่ >>> เว็บดูบอลสดฟรี