รีวิวมินิเกม Yakuza: Like a Dragon มาเจาะลึกรายละเอียด ความโหด มันส์ ฮา ของมินิเกมที่มีอยู่ในตัวเกมยากูซ่า ในภาคนี้เพื่อให้คอเกมห้ามพลาด
รีวิวมินิเกม Yakuza: Like a Dragon สวัสดีครับ กลับมาพบกับเรา Torrify กันอีกครั้ง วันนี้เราจะหยิบ เกมที่น่าติดตามอย่าง ซีรีย์ Yakuza กับภาคใหม่ และตัวเอกใหม่ ในภาค Like a dragon นั่นเอง มาดูกันในแต่ละข้อดีกว่า ว่ามีแบบไหนบ้าง
1. การบริหารและการจัดการธุรกิจ
ถ้าพูดถึงเกมในซีรีย์ Yakuza แล้ว จะนึกถึงมินิเกม กันอย่างแน่นอนเพราะถือเป็นไฮไลท์ของตัวเกมเลยก็ว่าได้เพราะในแต่ละภาคนั้นก็มีมินิเกม ประจำภาคอย่างเช่น Yakuza 0 นั้นก็จะเป็นการจัดการคาบาเรตคลับ ส่วน Yakuza 6 มีมินิเกมบริหารทีมเบสบอล ส่วน โดยเกมภาคนี้ Yakuza: Like A Dragonมีมินิเกมเป็นโหมดจัดการ/บริหารบริษัทIchiban Holdings
มินิเกมจัดการ/บริหารบริษัท Ichiban Holdings (หรือเรียกมินิเกมสั้น ๆ ว่า Management ก็ได้) คล้ายกับมินิเกมของ Kiryu ใน Yakuza 0 ที่เกมเมอร์ต้องกวาดซื้อธุรกิจทั่วทุกย่านใน Kamurocho แต่ในเกมภาคนี้นั้น จะมีรายละเอียดล้ำลึกกว่า 5 คุณพ่อสุดร้ายจากในเกม
ระหว่างการเล่น มินิเกมตัวนี้นั้น ผู้เล่นต้องทำการจัดการทั้งหมดให้เหมือนจริง เลยตั้งแต่ การดูแลพนักงานทั้งหมดในองค์กร รวมถึงการรับพนักงานเข้า บริษัทอีกด้วย ยังมีถึงขนาดต้องตรวจสอบอารมณ์ของพนักงาน, ฝึกงานเพื่อให้พนักงานเพิ่มทักษะ, เลื่อนตำแหน่งเพื่อเพิ่มขีดจำกัดของเลเวล หรือแม้กระทั่งไล่พนักงานออก หากคิดพนักงานคนนั้นไม่มีประสิทธิภาพดีมากพอ
นอกจากนี้ ยังมีการเลือกซื้อบริษัทอีก มองถึงการซื้อบริษัทนั้น มีประสิทธิภาพพอที่จะต้องการไหม แถมต้องคิดว่า ตัวบริษัทที่เราจะซื้อนั้น สามารถอยู่กับเราได้นานหรือไม่ อย่างเช่น บางบริษัทมีคุณสมบัติอัปเกรดธุรกิจได้หลายขั้น ในขณะที่อีกหลายบริษัทสามารถอัปเกรดธุรกิจได้เพียงนิดเดียว อาจทำให้บริษัทดังกล่าวไม่สามารถกำไรไม่พอในระยะยาว ซึ่งผู้เล่นสามารถเลือกได้ว่าจะซื้อบริษัทมาเป็นตัวเอง แล้วทำการลงทุนอัปเกรดจนกลายบริษัทสร้างรายได้ หรือขายบริษัททิ้ง เพื่อซื้อบริษัทอื่นที่ทำกำไรดีกว่า
และแน่นอนว่าตัวเกม มีระบบให้ตัวคุณนั้นสามารถลงทุน เนื่องในโอกาสพิเศษต่างๆ อย่างเช่น การรับติดต่อรับทำโฆษณาทางทีวี เพื่อเป็นการกระตุ้นรายได้ แถมมีทั้ง นำเงินไปอัพเกรดบริษัทและ การลงทุนให้บางบริษัทที่มีความเสี่ยงขาดทุน Yakuza สนุก ไหม
และวันสุดเท้าย ยังมีระบบการประชุมผู้ถือหุ้น บริษัทอีกด้วย ที่ทางตัวคุณนั้นต้องทำการโน้มน้าว ให้มาช่วยลงทุนบริษัท Ichiban Holdings ต่อไป ซึ่งมีระบบในการจัดพนักงาน มารับมือกับผู้ถือหุ้นที่หัวร้อนไม่พอใจ กับการบริหารของบริษัทคุณ และยิ่งผลลัพธ์ในกำไรไม่ดีเท่าไหร่ ทางผู้ลงทุนก็จะยิ่งไม่พอใจเพิ่มยิ่งมากขึ้นไปอีกด้วย และซึ่งหากโน้มน้าวสำเร็จก็จะช่วย ทำให้บริษัทของ อิจิบังนั้นขึ้นแรงก์เป็นบริษัทที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ในจังหวัดโยโกะฮาม่าด้วย
สรุปแล้ว โหมดมินิเกม การจัดการและบริหาร Ichiban Holdings นั้นถือว่าเป็น มินิเกมขนาดใหญ่ ของซีรีย์ YAKUZA ที่หากเล่นแล้วจะติดอย่างมาก ด้วยเกมการเล่นที่เข้าใจง่าย แต่ระบบมีความล้ำลึก ถ้าหากคุณชอบเกมเกี่ยวกับการบริหาร หรือต้องการปั๊มเงินเป็นจำนวนมาก เพื่อใช้ซื้อไอเทมต่าง ๆ ในเกม ผู้เล่นไม่ควรพลาดมินิเกมนี้เป็นอย่างยิ่ง
2.มินิเกมรับชมภาพยนตร์คลาสสิก
อีกหนึ่งมินิเกม สุดกาวที่ให้ผู้เล่นนั้น ต้องคอยปราบ คนแต่งชุดหัวแกะ ต้องกดปุ่มตามหน้าจอเพื่อป้องกัน ไม่ให้แกะ เสกพลังเวทย์ทำให้ อิจิบัน พระเอกของภาคนี้ผล็อยหลับไป ระหว่างรับชมภาพยนต์คลาสสิกนั่นเอง Yakuza 0 รีวิว
การนำเสนอ ภาพยนต์คลาสสิก ในเกมให้ความสนุกสนานเพลิดเพลินเป็นอย่างมาก รวมถึงมีการล้อเลียน หนังดังต่างๆอีกด้วย ยกตัวอย่าง Robocook มาจาก RoboCop หรือหนัง Lord of the Wedding Rings: Matrimony of the Ring ล้อเลียนจาก Lord of the Ring: The Fellowship of the Ring เป็นต้น
ความยากอยู่ที่ระดับตัวภาพยนต์ ที่จะฉายนั่นเอง หากเป็นภาพยนต์แอคชั่น ก็จะอยู่ระดับง่าย เสมือนตัวเราดูจริงๆคือไม่มีความง่วงสักเท่าไร กับหนังประเภทนี้ แต่ถ้าหาก เลือกภาพยนต์แนวสารคดี ตัวเกมก็จะยกระดับ ความยากต่อการรับมือคนหัวแกะ มากขึ้นเท่านั้น ซึ่งหากสามารถรับชมหนังจนจบ ตัวเกมจะมอบรางวัลด้วยการเพิ่มค่าลักษณะนิสัยของ Ichiban และหากนำเพื่อนในปาร์ตี้มารับชมหนังด้วย ก็จะเพิ่มค่าความสัมพันธ์ระหว่าง Ichiban กับเพื่อน ๆ ด้วย
รีวิวมินิเกม Yakuza: Like a Dragon 3. มินิเกม เก็บกระป๋องตามถนน
เป็นมินิเกมในภาคนี้ ที่เกมเมอร์ต่างให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เพราะคงไม่มีคาดคิดว่ายากูซ่าแบบพระเอกในภาคนี้ จะมานั่งเก็บกระป๋อง เหมือนคนไร้บ้านขายอย่างแน่นอน
โหมดเก็บประป๋อง นับว่าเป็นมินิเกมที่เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยกกฎการเล่นเกมนี้ ผู้เล่นต้องเก็บกระป๋องให้ครบตามจำนวนที่กำหนดไว้ภายในเวลา 5 นาที โดยระหว่างการเก็บกระป๋อง ผู้เล่นต้องพบกับอุปสรรคต่าง ๆ เช่น มีขอทานอีกฝ่ายมาแย่งเก็บกระป๋อง หรือมีรถเก็บขยะมาคอยขัดขวางเส้นทาง
ผู้เล่นสามารถเก็บกระป๋องเป็นจำนวนมากได้ด้วยการอัดชนจักรยานของคู่แข่ง (ด้วยไอเทม Boost Power up) แล้วขโมยกระป๋องมาเป็นของตนเอง หรือคอยไล่เก็บกระป๋องจากคุณย่าที่วิ่งทั่วแผนที่ ก็ต้องบอกเลยว่าเป็นมินิเกมที่เล่นเพลินมาก ๆ Yakuza 7 English
ถึงจะเป็นมินิเกม ยอดนิยมแต่ กลายเป็นว่า ของรางวัลให้มาเป็น ของทีี่ใช้ต้นเกมเท่านั้น จึงกลายเป็นพอช่วงกลางหรือท้ายเกม เลยไม่มีความจำเป็นต้องกลับมาเล่น มินิเกมตัวนี้อีกแล้ว เนื่องจากของรางวัลไม่ค่อยจะคุ้มเท่าไร Yakuza: Like A Dragon summons
4. มินิเกม Dragon Kart
มินิเกม สุดป่วนมันส์ฮา แค่ดูชื่ออย่าง Dragon Kart ก็รู้แล้วว่าล้อเลียนมาจาก Mario Kart อย่างแน่นอนไม่มีผิด แถมเป็นมินิเกมที่เรียกได้ว่า วายป่วนที่สุด ในบรรดา มินิเกมทั้งหมดในซีรีย์ภาคนี้แล้ว
กฎการเล่นเกม Dragon Kart คล้ายกับ Mario Kart ของ Nintendo คือ ผู้เล่นต้องแข่งขันรถ Kart ทั่วเมือง Isezaki Ijincho แล้วคว้ารางวัลที่ 1 จากการแข่งขันทัวร์นาเมนต์รายการต่าง ๆ มาให้ได้ โดยเส้นทางจะมีเหรียญให้เก็บเพื่อใช้แลกของรางวัล และกล่อง Power Up สำหรับช่วยสนับสนุนผู้เล่น กับอาวุธปืนใช้ขัดขวางศัตรู
นอกจาก การแข่งขันแล้ว ยังมี Kart แต่ละรุ่นให้สามารถอัพเกรด ทำให้ขับได้ง่ายยิ่งขึ้นอีกด้วย แถมเป็นมินิเกม ที่มีเนื้อเรื่องเป็นของตัวเอง แยกจาก เนื้อเรื่องหลักอีกด้วย
รีวิวมินิเกม Yakuza: Like a Dragon 5. มินิเกม Vocational School
ถือว่าเป็นมินิเกม ทดสอบความรู้ ที่ทำให้เกมเมอร์ ต้องมานั่งหัวแตก คิดกันแบบคำตอบคืออะไรกัน? โดยข้อสอบทั้งหมดของเกมนี้มีทั้งหมด 21 วิชา เช่น วิชาคณิตศาสตร์, วิชาความรู้ทั่วไป, วิชาสัตวศาสตร์, วิชาความรู้เกี่ยวกับเกม SEGA, วิชาประวัติศาสตร์ยากูซ่าในเกม, วิชาสถานที่ Isezaki Ijincho และอื่น ๆ อีกมากมาย
แต่มินิเกมตัวนี้ ไม่ค่อยทำให้เกมเมอร์ หลายคนอินกับ มินิเกมนี้สักเท่าไร อาจเพราะระดับความยาก ของตัวเกม เพราะข้อสอบของเกมนี้จัดว่ามีความยากระดับหนึ่ง ถ้าหากเกมเมอร์ไม่มีความรู้ทั่วไป เว็บดูบอลสดฟรี
ยกตัวอย่างเช่น มีคำถามว่านกพันธุ์ไหนไม่สามารถบินได้ ? , ธงประเทศไหนมีมังกร ? , ตัวละครเอกคนแรกของเกม Sakura Wars มีชื่อว่าอะไร ? และคำถามอื่น ๆ อีกมากมาย ที่ทำให้ผู้เล่นนั่งงงเกาหัวเหมือนบรรยากาศในห้องสอบของโรงเรียน หรือยอมแพ้ต้องหยิบโพย (ไกด์เกม) มานั่งอ่านข้อสอบ
ข้อสอบทั้งหมดมีทั้งหมด 5 ข้อ (จากการสุ่มทั้งหมด 10 ข้อ) โดยผู้เล่นต้องตอบถูก 3 ข้อขึ้นไปจึงจะสอบผ่าน ซึ่งหากสอบผ่าน ตัวเกมจะมอบรางวัลด้วยการเพิ่มค่าลักษณะนิสัยของ Ichiban ส่วนหากสอบตก ต้องสอบใหม่อีกครั้ง พร้อมเสียเงินค่าสอบไปแบบฟรี ๆ
